Friday 21 May 2010

Pattaya back to bright up now....wwwwoooohhhh!!!!! from sugarcane's

ใครๆในโลกเขาก็พยายามพัฒนาบ้านเมืองให้เป็นที่รักของนักท่องเที่ยวกันทั้ง นั้น มีอุปสรรคอันใดเขาก็ร่วมมือกันแก้ไขเป็นอันหนึ่งอันเดียวทั้งภูมิภาค ไม่ใช่บางภูมิภาค พอประเทศไหนเจอวิกฤต รีบฉวยเอานักท่องเที่ยวนักธุรกิจนักลงทุน เข้าประเทศตัวเองจนหมดสิ้น จะให้ทำตัวเป็นนักพัฒนารุ่นเก่าที่ประนามประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้อีกแล้ว ไม่ดีต่อการต่างประเทศ พวกบลูพรินตในฝันเขายิ่งอยากให้มีเขตเศรษฐกิจเก๊ๆขึ้นมาให้จงได้ ภายในเวลาปีนั้นปีนี้ อ้างว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนอะไรแบบนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของนักธุกิจการ เมืองเสียหน่อย แต่ก็ มีแต่บางประเทศเนี่ย ผลัดกันใช้มือของฝ่ายตรงข้ามและผู้ใช้งบประมาณบ้านเมืองในสมัยนั้นๆทำลาย แหล่งเงินแหล่งทุนของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกันอยู่นั่นแหละ ผลัดกันไปมาทุกปี แต่นักธุรกิจการเมืองของบางประเทศไม่เคยเข็ด เพราะเวลาได้กำไรปันผลต่อหุ้นไม่เคยต้องแบ่งให้กระทรวงการคลังมาพัฒนาบ้าน เมืองแบบเต็มๆ เพราะจ่ายเงินให้นักการเมืองที่ใช้ธุรกิจการเมืองหากินบนน้ำตาข้าราชการราย ได้ต่ำและพวกคนจนในประเทศ ได้เงินที่ปันผลในตลาดทุนหรือขายให้ใครtake over ได้กำไรดี้ดีไปได้ผ่านการแสวงหาโอกาศทางการเมืองเสร็จก็ไปเสวยสุขอยู่บน อวกาศได้แล้ว แผ่นดินบนโลกไม่มีให้อยู่ก็ช่างมัน ประเทศอะไรนะเนี่ย ชอบทะเลจัง แม้ไปอยู่จะตัวดำตัวอ้วนกินดีอยู่ดี แต่ก็ชอบ ตอนเด็กๆนะ ตอนนี้แก่แล้วกลัวผิวเหี่ยว

Pattaya is the best beach one in Thailand..that i always recommend..after crisis time..in Bangkok more than several weeks..i had been worked in Sriracha ,Chon buri...that near Pattaya...although i had been appreciated in the fantastic special area administration another one of Thailand for long time...but the difference between our special area is difference from special economic zone as if specific zone in china...the china policy y is crew inside under support about many businesses...difference from Pattaya or Bangkok...only couple special zones of us..so i losses my surprise about..why my foreigners business friend fly to re born their busines

อ้างถึง: Blogger: Dashboard (ดูบน Google Sidewiki)

Pattaya back to bright up now....wwwwoooohhhh!!!!! from sugarcane's

ใครๆในโลกเขาก็พยายามพัฒนาบ้านเมืองให้เป็นที่รักของนักท่องเที่ยวกันทั้ง นั้น มีอุปสรรคอันใดเขาก็ร่วมมือกันแก้ไขเป็นอันหนึ่งอันเดียวทั้งภูมิภาค ไม่ใช่บางภูมิภาค พอประเทศไหนเจอวิกฤต รีบฉวยเอานักท่องเที่ยวนักธุรกิจนักลงทุน เข้าประเทศตัวเองจนหมดสิ้น จะให้ทำตัวเป็นนักพัฒนารุ่นเก่าที่ประนามประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้อีกแล้ว ไม่ดีต่อการต่างประเทศ พวกบลูพรินตในฝันเขายิ่งอยากให้มีเขตเศรษฐกิจเก๊ๆขึ้นมาให้จงได้ ภายในเวลาปีนั้นปีนี้ อ้างว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนอะไรแบบนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของนักธุกิจการ เมืองเสียหน่อย แต่ก็ มีแต่บางประเทศเนี่ย ผลัดกันใช้มือของฝ่ายตรงข้ามและผู้ใช้งบประมาณบ้านเมืองในสมัยนั้นๆทำลาย แหล่งเงินแหล่งทุนของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกันอยู่นั่นแหละ ผลัดกันไปมาทุกปี แต่นักธุรกิจการเมืองของบางประเทศไม่เคยเข็ด เพราะเวลาได้กำไรปันผลต่อหุ้นไม่เคยต้องแบ่งให้กระทรวงการคลังมาพัฒนาบ้าน เมืองแบบเต็มๆ เพราะจ่ายเงินให้นักการเมืองที่ใช้ธุรกิจการเมืองหากินบนน้ำตาข้าราชการราย ได้ต่ำและพวกคนจนในประเทศ ได้เงินที่ปันผลในตลาดทุนหรือขายให้ใครtake over ได้กำไรดี้ดีไปได้ผ่านการแสวงหาโอกาศทางการเมืองเสร็จก็ไปเสวยสุขอยู่บน อวกาศได้แล้ว แผ่นดินบนโลกไม่มีให้อยู่ก็ช่างมัน ประเทศอะไรนะเนี่ย ชอบทะเลจัง แม้ไปอยู่จะตัวดำตัวอ้วนกินดีอยู่ดี แต่ก็ชอบ ตอนเด็กๆนะ ตอนนี้แก่แล้วกลัวผิวเหี่ยว

Pattaya is the best beach one in Thailand..that i always recommend..after crisis time..in Bangkok more than several weeks..i had been worked in Sriracha ,Chon buri...that near Pattaya...although i had been appreciated in the fantastic special area administration another one of Thailand for long time...but the difference between our special area is difference from special economic zone as if specific zone in china...the china policy y is crew inside under support about many businesses...difference from Pattaya or Bangkok...only couple special zones of us..so i losses my surprise about..why my foreigners business friend fly to re born their busines

อ้างถึง: Blogger: Dashboard (ดูบน Google Sidewiki)

Sunday 16 May 2010

Sport make more high spiritual...BUT political games and trade bussinesses have no defeat???







http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=326227&ch=pl1
นายกฯ เผย ศอฉ.อาจพิจารณาประกาศเคอร์ฟิวส์ กรุงเทพฯ 16 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีเผยสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ประสาน กทม. เลื่อนวันเปิดเทอมโรงเรียนทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร จากวันที่ 17 พ.ค.เป็นวันที่ 24 พ.ค. ระบุ ศอฉ.อาจประกาศเคอร์ฟิวส์แก้ไขปัญหาการชุมนุม ย้ำให้เสื้อแดงยุติการชุมนุม เพราะกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อการร้าย เรียกร้องแกนนำที่ถูกหมายจับมอบตัว อย่าห่วงสถานภาพตัวเอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ว่า เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) เป็นวันเปิดเทอม ซึ่งผู้ปกครองมีความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลาน ตนจึงสั่งให้กระทรวงศึกษาธิการ ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร ว่าโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครทุกโรงเรียน ให้เลื่อนการเปิดเทอมไปอีก 1 สัปดาห์ เป็นวันที่ 24 พฤษภาคม เพื่อให้ผู้ปกครองมีความอุ่นใจ เพราะเข้าใจหัวอกพ่อแม่ที่ไม่ต้องการให้บุตรหลานเดินทางในกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาการชุมนุมขณะนี้ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เข้าไปอยู่ใน สถานการณ์ หรือตกเป็นเหยื่อนั้น ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กำลังประชุมคณะกรรมการ ศอฉ. อาจจะมีการห้ามใช้พื้นที่การเดินทาง รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวส์ ซึ่งทาง ศอฉ.จะรายงานให้ทราบต่อไป ว่า จะมีประกาศเพิ่มเติมมาตรการในลักษณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง ภาพรวมของปัญหาในขณะนี้ ว่า การชุมนุมเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้ตลอดเวลา สิ่งที่เป็นปัญหา คือบทบาทของกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือกองกำลังติดอาวุธนับวันจะมีบทบาทสูงขึ้น จากเดิมที่เป็นการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ของผู้ชุมนุม และมวลชน แต่ 2 เดือนที่ผ่านมาพัฒนาการต่าง ๆ บ่งชี้ว่าขณะนี้กลุ่มผู้ก่อการร้ายมีบทบาทสูงสุด การใช้อาวุธสงคราม การยิงระเบิดเอ็ม 79 ซึ่งมีมาก เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นสิ่งที่เกิดปัญหาและความสูญเสียมากที่สุด ดังนั้นขอยืนยันว่าการยุติการชุมนุมเป็นทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความ สูญเสีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากเรียนให้ประชาชนเข้าใจว่า การชุมนุม การเข้ามาปะทะหรือยั่วยุเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นผลดี ซึ่งศาลลงโทษจำคุก 6 เดือน ประชาชนที่เข้ามาทำลายด่าน หรือยั่วยุเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ขอย้ำว่าประชาชนที่ถูกชักจูง หรือมีความคิดเข้ามาเกี่ยวข้องกับการชุมนุม อย่าได้ทำ เพราะผิดกฎหมาย และเป็นอันตราย กองกำลังที่ติดอาวุธ เวลาใช้อาวุธสงคราม เขาไม่สนใจว่าเหยื่อจะเป็นใคร ถ้าเหยื่อเป็นเจ้าหน้าที่ ก็บรรลุเป้าหมายที่ตัดทอนกำลังของบ้านเมือง แต่ถ้าเหยื่อเป็นประชาชน ก็หวังว่าความสูญเสียของประชาชนจะมากดดันรัฐบาล และสังคม เพราะฉะนั้นกลุ่มที่มีแรงจูงใจ ที่จะทำให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด คือกลุ่มผู้ก่อการร้าย และกองกำลังติดอาวุธ "ผมอยากย้ำผู้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทั้งหมด วันนี้การชุมนุมของท่านกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มที่ก่อการร้าย กองกำลังติดอาวุธ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้เป็นแนวทางการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นแนวทางให้เกิดความเป็นธรรม มีแต่จะทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่นิยมความรุนแรง เป็นสังคมไร้ระเบียบ ไร้กฎหมาย และคนที่จะเดือดร้อนมากที่สุด คือประชาชนคนยากคนจน เพราะสังคมใดที่ปราศจากกฎ ระเบียบ ใช้กำลังเป็นหลัก จะเป็นสังคมทำให้ประชาชนไม่มีโอกาสความเป็นอยู่ที่ดี ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข วันนี้ไม่มีแนวทางใดดีกว่า การยุติการชุมนุม และแกนนำผู้ชุมนุมไม่ควรกังวลเรื่องสถานภาพของตัวเอง แกนนำที่มีหมายจับขอให้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่คือ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ละเว้นใครทั้งสิ้น ผมและนายสุเทพ ก็อยู่ใต้กฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย นี่คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังสร้างมาตรฐานเดียวที่เป็นความเป็นธรรมที่จะทำให้ เหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายและยอมรับได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับแผนปรองดอง โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยที่แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ ได้มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และได้ข้อยุติระดับหนึ่ง ว่าจะมีการจัดตั้งกลไกในลักษณะการขับเคลื่อนโครงการปฏิรูปประเทศไทย จะมีการทำผ่านสมัชชา วันที่ 20 พฤษภาคม และจะมีข้อเสนอการขับเคลื่อนทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น เสนอมาที่ตน ซึ่งจะได้ข้อยุติภายในสิ้นเดือนนี้ และมีการหยิบยกประเด็นหลักที่จะดำเนินการคือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส ปัญหากฎหมายที่ไม่ยุติธรรม เป็นต้น สำหรับเรื่องสื่อ นั้น มีความจำเป็นต้องเร่งรัดเรื่องการตรากฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่จะเข้ามากำกับดูแลสื่อ ให้ครอบคลุมโทรทัศน์ดาวเทียม วิทยุชุมชน และสื่ออื่น ๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องการเมือง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนได้ขอความร่วมมือไปยังสถาบันพระปกเกล้าให้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้กำลังรอคำตอบที่เป็นทางการจากสถาบันพระปกเกล้าอยู่ แต่ถ้าสถาบันพระปกเกล้า ไม่ต้องการมีบทบาทในเรื่องนี้ ตนก็เตรียมจะหารือกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ว่าพร้อมทำเรื่องนี้ในรูปแบบคณะกรรมการเฉพาะกิจขับเคลื่อน หรือไม่ .- สำนักข่าวไทย

ที่มา : สำนักข่าวไทย MCOT

http://www.thelocal.de/sport/20100516-27223.html

Bayern beat Bremen for German Cup

Published: 16 May 10 08:08 CET
Online: http://www.thelocal.de/sport/20100516-27223.html

Franck Ribery grabbed one of the goals as Bundesliga champions Bayern Munich stayed on course for the treble with a 4-0 win over 10-man Werder Bremen in the German Cup final in Berlin on Saturday.

* Hamburg's merry buccaneers celebrate a century of football - Sport (14 May 10)
* Löw unsatisfied with 3-0 win against Malta - Sport (14 May 10)
* Löw mulls future ahead of World Cup prep match - Sport (13 May 10)

Ribery scored his first goal for nearly two months after a difficult few weeks for the 27-year-old, who is due to hear on Tuesday if he is banned for next Saturday's Champions League final against Inter Milan.

The French international has kept a low profile since being questioned by police over his involvement in the under-age call-girl scandal, which has
rocked his national team.

And he was handed a three-match ban by UEFA for being sent off in the
Champions League semi-final first-leg win over Lyon, which looks set to keep him out of the Champions League showpiece in Madrid.

Ribery's appeal will be heard at the Court of Arbitration for Sport (CAS)
on Tuesday.

"The result shows how important this game was to us," said Bayern defender
Philipp Lahm. "We still have business to attend to, but we certainly want to win the treble that was clear to see today."


Berlin backs EU aid fund after Obama prodding

Published: 11 May 10 08:45 CET
Updated: 11 May 10 17:52 CET
Online: http://www.thelocal.de/national/20100511-27113.html

Chancellor Angela Merkel's cabinet on Tuesday approved Germany's share of a trillion-dollar rescue package of loan guarantees for crisis-hit European countries amid reports she had been prodded by US President Barack Obama to take action.

* Bidding the Iron Lady Chancellor auf Wiedersehen - Analysis & Opinion (10 May 10)
* Merkel says EU aid fund will protect the euro - Business & Money (10 May 10)

"The measures send a clear signal that the markets can rely on the financial stability of the euro area and that speculating against the eurozone doesn't pay," deputy government spokesman Christoph Steegmans told a regular briefing.

Berlin is expected to provide at least €123 billion ($157 billion), but officials have warned that Germany's slice is likely to be higher - up to €150 billion - because countries for which the fund is designed will not be contributing.

The fund - the eurozone stabilisation mechanism - which was unveiled in the early hours of Monday after marathon talks in Brussels, has been dubbed "Shock and Awe" for its size and it was immediately cheered by markets.

But the New York Times reported on Tuesday that it took a phone call from Obama to convince Merkel that dramatic action was required. He stressed in the conversation late on Sunday that without "an overwhelming financial rescue" the future of the euro and the entire European Union was at stake.

www.aspirationlaw.net

Tuesday 4 May 2010

Royal Wedding Cerebration

www.aspirationlaw.net